หลังเสียงประกาศต้อนรับผู้ได้รับรางวัลโนเบล
ทุกคนต่างยืนขึ้นปรบมือเป็นเกียรติสูงสุดแก่ผู้ที่ชนะการตัดสินรางวัลโนเบลเป็นเกียรติยศ
ที่มอบให้กับผู้ทำคุณประโยชน์แก่มนุษย์มากที่สุดทางด้านเคมี ฟิสิกส์ แพทย์ศาสตร์
วรรณกรรม และสันติภาพ ทุกปีราวเดือนตุลาคม
นักวิทยาศาสตร์และผู้ที่มีผลงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างเผ้ารอโทรศัพท์สายตรงจากกรุงสตอร์กโฮม
เพื่อลุ้นว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่จะได้รับรางวัล
อันทรงเกียรตินั้นหรือไม่ เพราะไม่แค่ตัวเองที่จะได้รับชื่อเสียงเกียรติยศ
แต่ยังรวมไปถึงประเทศและชาติกำเนิดของตน
หลายคนทราบดีว่า อัลเฟรด โนเบล
ในขณะที่ยังมีชีวิตเมื่อราว 100 กว่าปีมาแล้ว เป็นผู้ร่ำรวยมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
จากการทำธุรกิจดินระเบิด "ความมั่งคั่งของเขาฆ่าคน"
เขาจึงได้พยายามลบล้างคำกล่าวหานี้
โดยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2438 โนเบลมอบเงินมรดก 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพื่อจัดตั้งกองทุนรางวัลโนเบลมอบให้แก่บุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับมนุษย์มากที่สุด
โดยมี Royal
Swedish Academy of Sciences พิจารณาในสาขาฟิสิกส์ และเคมี
Swdeish Academy ตัดสินในสาขาวรรณกรรม สถาบัน
Karolinska Institute
คัดเลือกผู้ชนะรางวัลในสาขาแพทย์ศาสตร์ และรัฐสภานอร์เวย์ดูแลรางวัลสาขาสันติภาพ
การประกาศผลจะทำในทุกวันที่ 10 ธันวาคม (ครบรอบวันเสียชีวิตของโนเบล) ของทุกปี
ทุกวันนี้ผู้ชนะนอกจากจะได้เกียรติยศชื่อเสียงแล้วยังได้เงินเป็นจำนวนราว 940,000
เหรียญสหรัฐฯ แม้เงินจะน้อยกว่าบางรางวัลที่มีอยู่ในโลกนี้
แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่าไม่มีรางวัลใดยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับโนเบลได้เลย
นั่นอาจเป็นเพราะผู้ที่ได้รางวัลนี้ในยุคแรก ๆ
นั้นผลติผลงานที่มีคุณภาพและยิ่งใหญ่ระดับที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้
เช่น วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน ผู้พบรังสีเอกซ์ หรือ มารีและปิแอร์ คูรี
ผู้ศึกษากัมมันตภาพรังสี
แต่ก็ยังมีอีกหลายท่านที่มีผลงานที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ได้รับรางวัลนี้
ทั่วโลกมีผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจำนวนมาก แล้วก็มีผู้ที่พลาดรางวัล
เป็นจำนวนมากเช่นกัน
คณะกรรมการตัดสินต้องเก็บเรื่องรายละเอียดของการตัดสินเป็นความลับ
จนกว่าเวลาจะผ่านไปแล้ว 50 ปี ผู้ที่คาดว่าจะได้รางวัลกลับพลาด
ผลงานของเขาด้อยตรงไหน เปล่าเลยผลงานต่าง ๆ
ที่ถูกเสนอชื่อต่างก็มีความสำคัญต่อโลกทั้งสิ้น
แต่บางเรื่องก็ไม่สามารถจัดให้กับกับชื่อรางวัลได้ เช่น ซิกมันด์ ฟรอยด์
นักจิตวิทยาชื่อก้องโลก
ผู้มีชื่อเสียงจากการเสนอทฤษฎีของจิตใจและจิตใต้สำนึกว่ามีอิทธิพลต่อนิสัย
ผลงงานของเขาเปลี่ยนทัศนะคติด้านจิตวิทยาไปอย่างมากมาย
รางวัลโนเบลไม่มีสาขาจิตวิทยา
คณะกรรมการ 3-5 คน
ในการตัดสินรางวัลแต่ละประเภทนั้นต้องมีความรอบคอบอย่างสูงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ที่พลาดการประกาศชื่อ
บางคราวก็มักเกิดความสับสนในการตัดสิน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์นักฟิสิกส์ผู้โด่งดังจากทฤษฎสัมพัทธภาพแต่เขากลับได้รับรางวัลนี้
ในเรื่องที่เขาอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก 10 ปี
หลังจากที่หนึ่งในคณะกรรมการเห็นว่าสัมพันธภาพของเขาเหลวไหล เอ็ดวิน ฮับเบิ้ล
นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ผู้ค้นพบว่าจักรวาลกำลังขยายตัว ปรากฏการณ์
redshift ที่ฮับเบิ้ลพบนี้
คณะกรรมการสาขาฟิสิกส์ในขณะนั้นไม่ยอมรับกันว่าเป็นฟิสิกส์ แต่ในปี พ.ศ. 2496
คณะกรรมการได้มีมติให้งานของฮับเบิ้ลได้รับรางวัล ทว่าเขาเสียชีวิตลงในปีนั้น
คณะกรรมการจึงยกเลิกคำตัดสินไป ในปีพ.ศ. 2446 สแวนเต อาร์รีเนียส (Svante
Arrhenius)
หนึ่งในคณะกรรมการสาขาเคมีไม่เห็นด้วยที่จะมอบรางวัลสาขานี้ให้กับ
ดมิทรี เมนเดเลเยฟ นักเคมีชาวรัสเซีย เพราะไม่พอใจในคำวิพากษ์วิจารณ์ของเมนเดเลเยฟในงานของตนอย่างรุนแรง
เมนเดเลเยฟ
พลาดรางวัลนั้นไปตลอดกาล เขาจากไปในปี พ.ศ. 2447
โดยทิ้งสิ่งที่คนทั้งโลกไม่มีวันลืมคุณประโยชน์อันมหาศาลที่เขาสร้างไว้ คือ
ตารางธาตุ
แม้จะมีประเด็นต่าง ๆ ที่สร้างความสับสนในการตัดสินรางวัลมากมายก็ตาม
ก็ไม่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำย่อท้อที่จะสร้างผลงานออกมา
อย่างต่อเนื่อง
เพราะหลายคนทำงานโดยไม่ได้หวังที่จะชิงเอารางวัลหรือชื่อเสียงเกียรติยศ
แม้จะได้รับรางวัล แต่บางครั้งก็เหมือนถูกลืม
ในทางกลับกันถึงจะไม่ได้รับรางวัลนี้ แต่ทั่วโลกก็รู้จักและยอมรับผลงานของพวกเขา
อยู่ที่เราจะเลือกจดจำใคร
ผลงานสร้างความยิ่งใหญ่ได้แม้ไร้เหรียญรางวัล แล้วรางวัลมันสำคัญตรงไหน????
ที่มา : กุมภ์(นามแฝง). "หนึ่งหน้าโลกวิทยาศาสตร์"วารสารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ & ธรรมชาติ.49(5) : 18-19 ; มิถุนายน, 2549.